“ตลาดโบราณบางพลี” หรือ “ตลาดบางพลีใหญ่” เป็นตลาดเก่าแก่อายุกว่า 150 ปี เป็นเรือนแถวไม้สองชั้นหลายสิบคูหา เรียงรายไปตามลำคลองในบรรยากาศชวนรำลึกถึงอดีต ซึ่งตลาดน้ำบางพลีเป็นชุมชนใหญ่ชุมชนหนึ่งและมีความรุ่งเรืองมากในอดีต เป็นตลาดขนส่งสินค้า และผู้โดยสาร จากภาคตะวันออกชายฝั่งทะเลสู่กรุงเทพมหานคร การเดินทางในสมัยก่อน ใช้เรือเป็นพาหนะเดินทางโดยการแจวพายและแล่นใบเดินทางมาค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้าจะอยู่ในคลองสำโรง ตลาดน้ำบางพลีถือเป็นตลาดน้ำประวัติศาสตร์แห่งหนึ่ง มีวิถีชีวิตที่เรียบง่ายและมี วัฒนธรรมที่ดีงามสั่งสมอยู่มากมายสมควรอนุรักษ์ฟื้นฟูให้เยาวชนรุ่นหลังได้ศึกษาและ หวงแหนวัฒนธรรมเก่าแก่ของบรรพบุรุษสืบต่อไปดังคำกลอนของสุนทรภู่
“ถึงบางพลีมีเรือนอารามพระ
ดูระกะดาษทางไกลไปกลางทุ่ง
เป็นเลนลุ่มลึกเหลวเพียงเอวพุง
ต้องลากจูงจ้างควายอยู่รายเรียง
ดูเรือแพแออัดอยู่ยัดเยียด
เข้าเบียดเสียดแทรกกันสนั่นเสียง
แจวตะกูดเกะกะประกะเชียง
บ้างทุ่มเถียงโดนดุนกันวุ่นวาย”
ระยะทางเกือบหนึ่งกิโลเมตร ตลอดแนวสองฝั่งทางเดินที่ขนาน ไปกับคลองสำโรงของตลาดน้ำโบราณบางพลี ถูกจับจองจาก แม่ค้าพ่อค้าที่อาศัยอยู่มาแต่ดั้งเดิมจำหน่ายสินค้านานาชนิด ทั้งอาหารอร่อย ขนมหวาน ของใช้นานาชนิด ของตกแต่งบ้านเรือน ของฝาก ร้านเสริมสวย ร้านขายเสื้อผ้า ร้านขายสัตว์เลี้ยง ฯลฯ
โดยชุมชนคนตลาดแห่งนี้ มีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย และมีวัฒนธรรมที่ดีงามสั่งสมอยู่มากมาย หนึ่งในวิถีนั้นคือ ประเพณีรับบัว หรือ โยนบัว ที่พอถึงวันขึ้น 14 ค่ำ เดือน 11 ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในละแวกชุมชนตลาดน้ำ ก็จะตื่นเช้าออกมาร่วมกันโยนบัว เพื่อสักการะองค์หลวงพ่อโตที่ล่องเรือมาตามลำคลองสำโรง
[notification type=”alert-danger” close=”false” ]วันที่ผมไปตลาดนี้คือวันที่ 19 พ.ค. 57 ก่อนจะเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ตลาดโบราณบางพลีเพียงวันเดียว ไฟไหม้ครั้งนี้ทำให้ตลาด ร้านค้า และบ้านเรือนที่ปลูกยาวต่อเนื่องกันเสียหายเป็นอย่างมาก เนื่องจากต้นเพลิงมาจากกึ่งกลางของตลาดที่มีสะพานกั้นกลางอยู่ ยาวต่อเนื่องกันประมาณ 50 หลังคาเรือนเป็นบริเวณกว้างประมาณ 5 ไร่[/notification]
พวกผมจอดรถที่โรงเรียนวัดบางพลีใหญ่ใน ซึ่งด้านหน้าจะมีเต้นท์มาตั้งขายของ คล้ายตลาดนัด ด้านในเมื่อเดินเข้าไปจะมาร้านค้า ขายสินค้า ขายอาหารทั่วไป ผมสะดุดตากับไอศกรีมมะพร้าวเจ้านี้มาก เพราะเห็นเขากองทลายมะพร้าวไว้ พ่อค้าจะผ่ามะพร้าวอ่อนและขูดเนื้อมะพร้าวให้เป็นเส้นๆ จากนั้นตักไอศกรีมลงไปโรยด้วยถั่วลิสง แค่เห็นก็น่ากินเลยโดนไป 1 ลูก รสชาติก็อร่อยดีครับ ช่วยให้คลายร้อนได้บ้าง มะพร้าวอ่อนก็นุ่มลิ้นดีแท้
ภายในตลาดนอกจากจะมีสินค้าแล้ว ทางชุมชนได้จัดนิทรรศการ เพื่อเล่าประวัติความเป็นมาของตลาด จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามยุคสมัย ครั้งที่ผมไปใช่ชื่อนิทรรศการว่า “บางพลี วิถีแห่งสายน้ำ ตอนปฐมบท…กีฬาเรือพายกับสายน้ำ” ซึ่งได้นำเรือพายแต่ละชนิดมาจัดแสดง และประวัติความเป็นมาของตลาดที่เกี่ยวกับเรือ ที่ใช้ในการคมนาคมขนส่ง ซึ่งปัจจุบันเรือก็ยังมีความสำคัญกับคนในชุมชนนี้อยู่
สองท่านนี้คนหนึ่งเป็นพิธีกรรายการ “ลูกทุ่งตลาดสด” ทางช่อง ThaichaiyoTV ตลาดน้ำโบราณบางพลีกับซาย หทัยชนก ดูคลิปย้อนหลังรายการได้ที่นี่ครับ https://www.youtube.com/watch?v=m2m3j4RtwWo เป็นวันเดียวกับที่ผมไป
เมื่อมาถึงสิ่งแรกที่ทำคือ หาของทานก่อนเลยครับซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าจะมีร้านอะไรข้างหน้าบ้าง เจอร้านไหนก่อนก็เข้าร้านนั้นเลยเพราะหิวมากเลยประเดิม “ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นเห็ดหอม เครื่องยาจีน สูตรโบราณ” กันคนละชามสองชาม หน้าตาก็แบบในรูปด้านล่างนี่แหละครับ
พอเครื่องร้อนได้ที่ก็เดินชมตลาดซักหน่อย ภายในตลาดช่วงบ่ายๆ ค่อนข้างคึกคักครับ ด้วยเพราะว่าคนเพิ่งมาหาอะไรทานหรือป่าวไม่แน่ใจ แต่ทำให้อุณหภูมิตลาดสูงขึ้นจนเหงื่อไหล ใครย้อนไปตามๆกัน นอกจากสินค้าอุปโภค บริโภคแล้ว ก็มีบริการนวดคลายเส้นด้วยละ
เมื่อเดินไปเห็นของอร่อยๆ ก็แอบหิว เลยต้องหยิบติดไม้ติดมือมาจนได้
ตรงนี้ผมถ่ายจากสะพานที่คั่นกลางระหว่างตลาดก่อนเกิดไฟไหม้ เปรียบเทียบกันขณะไฟไหม้ครับ น่าเสียดายมาก
ลุงคนนี้เขาขายไอศกรีมครับ
บริเวณนี้ปลาค่อนข้างชุกชุม ตรงหัวสะพานยังมียายคนนึงเขาตั้งตระกร้าไว้หน้าห้อง เพื่อขายให้คนที่จะให้อาหารปลา ผมเลยซื้อมาสองกระจาด แหม๋ ขอบขนมปังนี่มันน่าจิ้มกับนมกินจริงๆ 555+
รูปนี้ถูกสิงครับ
และสิ่งหนึ่งที่ผมไม่คิดว่าจะเจอก็เจอ รถแดชในตำนาน เสียดายไม่มี sonic กับ maxnum ไม่งั้นได้เสียเงินแน่นอน
ในตัวตลาดผมเองไม่แน่ใจว่ามีห้องน้ำหรือป่าวนะครับ แต่ด้านหน้าที่เป็นโรงเรียนวัดบางพลีใหญ่ในนั้น เขามีห้องน้ำไว้ให้บริการ