ห่างกันไปซะนานกลับมาแล้วครับ ครั้งนี้ได้มีโอกาศไปพักกายที่ เชียงคาน จ.เลย เพื่อให้ไม่เป็นการเสียเวลาเริ่มเลยแล้วกัน

ทริปนี้ออกเดินทางในวันที่ 21 กันยายน 2553 ไปกันในแบบวันธรรมดาแต่ในแบบที่ไม่ธรรมดาครับคือ ไปกันเรื่อยๆ แวะที่โน้นที่นี้ที่นั้น

แวะกันไปเรื่อย เหอะๆ ^^ แวะที่แรกที่โคราช ไปหาอะไรกิน เห็นเค้าว่าในเมืองมีของกินเยอะก็ต้องแวะไปหาไรกินซักหน่อย :)?แต่ขับรถก็สังเกตุเห็นว่าทำไมวันนี้มันเงียบๆ ไม่ครึกครื้น?ที่สำคัญไม่มีอะไรขาย?อ้าวแล้วจะกินอะไรกันละครับ ขับไปซักพักก็เห็นอยู่ร้านนึงคนเยอะมาก?ท่าทางจะอร่อย เลยหาที่จอดรถลงไปดูซะหน่อย แต่พอมองเวลาโอโห!! นี้มัน?จะเที่ยงคืนแล้วนี้หว่า โหคนยังเยอะอยู่เลย พอเข้าไปดู อ่ะ!! คนที่นี้เค้ากินส้มตำกันดึกห่ะ กินกันยันเที่ยงคืนเลยหรอนี้ เค้ากินกันเราก็เลยสั่งมองลองบ้างว่าจะอะอร่อยขนาดให้ เห็นคนเยอะ?อย่างที่เห็นในภาพจานละ 25 บาท ต้องบอกว่า “แซบหลาย” อร่อยจริงๆ บอกคนตำว่าเผ็ดกลาง นี้หรอเผ็ดกลาง?”ลิ้นห้อย” เลย แต่อร่อยไม่เป็นไร เผ็ดก็ยอม เหอะๆ?พอหนังท้องตึงหนังตาก็หย่อน เหอะๆ หาที่นอนดีกว่า พรุ่งนี้ค่อยขับยาวไป จ.เลยพอเช้าเวลาซัก ตี 4 กว่า ก็ตื่นกันมา แปรงฟัน เตรียมตัวออกเดินทาง ออก เดินทางจากโคราชเวลา ตี5 ขับมาซักพัก ก็เข้าสู่จังหวัดชัยภูมิ

ตอนเช้าๆนี้อากาศดี นานๆจะได้ตื่นแต่เช้า ^^ แต่ว่าตื่นเช้าๆแบบนี้ไปหาอะไรรองท้องกันดีกว่า พี่สาวผมก็แวะเข้าตลาดตัวเมืองชัยภูมิ หาที่จอดรถแล้วลงไปเที่ยวตลาดดูวิถีชีวิตของคนแถวนั้น

พอท้องตึงๆกันแล้วก็เดินทางต่อ ถึง จ.เลย ประมาณ 10 โมงกว่า พอพูดถึงเลย ก็นึกถึงภูกระดึง พลาดไม่ได้เลยที่ต้องเข้าไป
ประทับตราประจำอุทยานแห่งชาติกันซะหน่อย

พอถึงตัวเมืองเลยก็ประมาณบ่ายโมงกว่า แล้วขับรถต่อจากตัวเมืองถึงเชียงคานประมาณ 60กว่าโล ขับไปเรื่อยๆก็ถึงเชียงคาน ถนนค่อนข้างดีพอสมควรพอถึงเชียงคานก็หาที่พัก ?ที่พักที่เชียงคานมีตั้งแต่ราคาไม่กี่ ร้อยบาทจนถึงหลักพันกว่าบาท มีหลากหลายแบบสวยๆทั้งนั้นครับ แต่สุดท้ายก็ไปจบที่ “บ้านชานเคียง” เป็นบ้านพักที่โดนใจมากๆ เดินใจตั้งแต่เดินเข้าไปเลย ^^ ลองดูรูปละกันครับว่าจะสวยโดนใจกันหรือป่าว

สรุปคืนนี้เรานอนกันที่นี้ คืนละ 450 บาท พอตกลงเรื่องการเข้าพักก็จัดแจงเอาของที่จำเป็นออกจากรถมาไว้ที่ห้องพัก เอนกายซักครู่ลืมบอกไปว่าห้องที่ผมนอนมองเห็นวิวริมแม่น้ำโขง ที่สวยงาม

พอได้เก็บวิวสวยกันจนเต็มที่แล้ว ที่นี้ก็ไม่มีไรทำก็เลยหลับเอาแรงกันซักหน่อย zZZ หลับกันยาวๆๆๆ ตื่นมาอีกที่ก็ เย็นๆ พระอาทิตย์ตกน้ำไปแล้ว กะว่าจะถ่ายรูปพระอาทิตย์ตกน้ำซะหน่อย ^^” พอตื่นมาก็ล้างหน้าล้างตา ออกไปเดินเที่ยวเชียงคานยามเย็น

พอดีวันที่ไปเป็นวันธรรมดา เลยไม่ค่อยมีร้านค้าเปิดกันมากนัก เค้าบอกว่าท่าเป็นเสาร์อาทิตย์ เปิดกันเพียบ เดินกันจนหิวละก็ไปหาอะไรกินแถวๆ บ้านชานเคียงมีของอร่อยมากมายแต่ที่สังเกตได้ จะมีเมนูอยู่หนึ่อย่าง ที่เป็นที่นิยมของคนที่นี้มาก เพราะติดป้ายเมนูนี้กันทุกร้าน นั้นคือ… ต้มยำปลาน้ำโขง แล้วแต่ว่าปลาน้ำโขงนี้มันปลาอะไร เหอะๆ ผมไม่บอกหรอกให้ไปลองกันเอาแอง แต่รับรอง แซบอิหลี พอได้ท้องตึงก็ตามระเบียบครับ เหอะๆ หลับ แต่คืนนี้อากาศดีฝนตกแต่ไม่หนักมาก พอได้อากาศหนาวๆ เหอะๆ

พอได้เวลาประมาณ 6โมเช้า ก็ทำธุระส่วนตัวกันลงไปตักบาตรข้าวเหนียว ทางบ้านพักเค้าจัดให้เป็นชุด ชุดละ 50 บาท หนึ่งชุดก็ประดอบไปด้วยที่เห็นละครับ ^^

สายก็เริ่มออกตระเวนกิน ^^ ไอ้ที่เห็นอยู่ในชามนี้เค้าเรียกว่า ข้าวปุ้นน้ำแจ่ว ? มันก็คือ ขนมจีนใส่น้ำต้มกระดูกหมูตะไคร้ใบมะกรูด แบบต้มยำอีสาน แซบ แซบ อีกตามเคยครับ ชามละ 20 บาท ประกอบไปด้วย เลือดหมู เครื่องใน เนื้อหมู เค้าไม่ได้กินกันแค่นี้นะครับ ขอบอก เค้ากินกับผักสดหลายอย่าง มีทั้งผักแพรว ผักกระเฉด กะหล่ำ โหระพา แล้วก็ข้าวเหนียว ที่สำมะคัญคือเครื่องปรุงเครื่องปรุงดูแล้วมันก็ทั่วๆไปไม่มีไรแตกต่างจากเครื่องปรุงก๋วยเตี๋ยวบ้านเราซักเท่าไร แต่ที่เห็นแปลกตาออกไปก็คือ กะปิ ครับกะปิ นี้ละกับเค้ามากินกับผักที่เป็นเครื่องเคียง คือเอาผักจิ้มลงไปในกะปิแล้วก็กินแล้วก็ซดน้ำแจ่วตาม รับรองว่า แซบอิหลีเด้อ ^^

พออิ่มกันตามเคยแล้วก็ออกไปตระเวนเที่ยวกันต่อ ออกเดินเที่ยวเดินดูกันเรื่อยๆแล้วก็ขับรถไป ภูทอก

• Facebook
• X
• Line