ได้เวลาเล่าทริปใกล้บ้านอีก 1 ทริป เมื่อปีก่อนไปเที่ยวพัทยาและได้มีโอกาสไปแวะไปที่เมืองจำลอง หรือที่เราจะคุ้นหูกันกับชื่อภาษาอังกฤษว่า “Mini Siam” ตั้งอยู่ ติดกับถนนสุขุมวิท กม. 143 เส้นที่จะเข้าเมืองพัทยาเลยครับ ด้านหน้าของที่นี่จะสังเกตุได้ง่ายจะมียักษ์ใหญ่ หรือแบบจำลองของยักษ์วัดโพธิ์ ยืนอยู่ด้านหน้า 2 ตน ครับ ซึ่งผมก็เพิ่งทราบว่าเมืองจำลองนี้ ได้เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี 2529 (ห๊าาาาา) โดยแบบจำลองชิ้นแรกจะเป็นอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย บนเนื้อที่ทั้งหมด 29 ไร่ ซึ่งได้รวมเอาแบบจำลองปูชนียสถานและโบราณสถาน ที่แสดงถึงสถาปัติกรรมทั้งของไทย และของต่างประเทศรวมอยู่มากมาย
ไว้ให้ได้ชมและได้ศึกษา โดยจะมีอยู่ด้วยกัน 2 โซน โซนแรกจะเป็นมินิสยาม ในส่วนนี้จะเป็นสถาปัติกรรมไทยล้วนๆ อาทิเช่น วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว ,ประสาทหินพนมรุ่ง, วัดอรุณราชวราราม, พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพย์อาศน์, อุทยานประวัติศาสตร์อยุธยา, วัดพระศรีสรรเพ็ชร, อนุสาวรีชัยสมรภูมิ และ สะพานแขวน พระราม 9 เป็นต้น ในส่วนของโซนยุโรป ก็จะมีสิ่งที่อยู่ในอันดับสิ่งมหัศจรรย์ของโลกอย่างที่เรารู้จักกัน อาทิ หอเอนปิซา (อิตาลี), สนามกีฬาโคลีเซียม กรุงโรม (อิตาลี), กำแพงเมืองจีน, นครวัต (กัมพูชา), หอไอเฟล (ฝรั่งเศส), โบสถ์เซนต์บาซิล (รัสเซีย) , เทพีเสรีภาพ (สหรัฐฯ) , สฟิงค์ และมหาวิหารอบูซิมเบล (อียิปต์), สะพานทาวเวอร์บริดจ์ (อังกฤษ) และ โอเปร่า (ออสเตเรีย) เป็นต้น
ราคาคนไทย 120 บาท/ท่าน , เด็กไทย 60 บาท/ท่านราคาต่างชาติ 300 บาท/ท่าน, เด็กต่างชาติ 150 บาท/ท่านหมายเหตุ: เด็กวัดตามส่วนสูง สูงเกิน 120 ซ.ม คิดเป็นราคาผู้ใหญ่เปิดบริการทุกวันตั้งแต่ 7.00 – 22.00 น.
เว็บไซต์ของเมืองจำลอง
www.minisiam.com
จากนั้นไปต่อกันที่ตลาดน้ำ 4 ภาค สถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ทางศิลปวัฒธรรมไทย ที่จำลองวิถีชีวิตความเป็นอยู่อย่างไทยที่เรียบง่าย เรียนรู้วิถีพอเพียงดั้งเดิมที่ผูกพันกับสายน้ำตั้งแต่อดีตสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน รวมถึงการเรียนรู้ภูมิปัญญาชาวบ้านที่มีเสน่ห์ที่น่าหลงใหลใน ๔ ภาค ของประเทศไทย ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคอีสาน และ ภาคใต้
ณ ที่นี่ ตลาดน้ำ ๔ ภาค (พัทยา) นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติจะได้เพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพอันงดงาม นั่งเรือพายชมทัศนียภาพ ๒ ฝั่งน้ำ สัมผัสกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ การค้าขายทางน้ำ ตระการตากับร้านค้าเรือนไทยไม้สักทั้งหลังที่สวยงาม โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของตลาดน้ำ จุดเด่นของเรือนไม้สักของแต่ละภาคที่สังเกตุง่ายๆ คือ หน้าจั่วที่มี ลักษณะแตกต่างกันอาทิ เรือนภาคเหนือ มีเอกลักษณ์พิเศษคือ กาแลไม้แกะสลัก อย่างงดงาม มีจำนวนรวม ๔๓ หลัง ซุ้มลีลาวดี และซุ้มกล้วยไม้เป็นจุดพักผ่อน รวมถึงลานสล้อที่เป็นลาน?กิจกรรมการแสดงของภาคเหนือ เรือนภาคกลางจะตกแต่งยอดจั่วที่ เรียกว่า ปั้นลม มีจำนวนรวม ๓๑ หลัง มีลานการแสดง ๒ ลาน ได้แก่ ลานเถิดเทิง และลานบางระจัน, เรือนภาคอีสาน ยอดจั่วจะป็นรูปรัศมีสีพระอาทิตย์เรืองรองจะเรียกว่า ยอดธง ประกอบด้วยเรือน ๒๒ หลัง มีลานหมอลำเป็นลานการแสดง, เรือนภาคใต้ มียอดจั่วที่เรียกว่า ปีกผีเสื้อ ประกอบด้วยเรือนจำนวน ๑๕ หลัง มีซุ้มเฟื่องฟ้า ลานเบตง และลานโนราห์ เป็นลานกิจกรรมการแสดง
สำหรับสินค้าทั้ง ๔ ภาคจะแตกต่างกันออกไปตามวิถีชีวิตแต่ละภาค โดยภาคเหนือจะเป็นสินค้างานไม้แกะสลัก เครื่องเงิน ผ้าพื้นเมืองลวดลายงดงามวิจิตร ผ้าไหม และร่มกระดาษ สำหรับสินค้าภาคกลาง ได้แก่ เฟอร์นิเจอร์หวาย เครื่องประดับ กระเป๋าสาน ภาคอีสานโดดเด่นในกลุ่มสินค้าผ้าไหมหมัดหมี่ ผ้าไหมแพรวา เทียนหอม หมอนอิง และภาคใต้สินค้าเลื่องชื่อได้แก่ ผลิตภัณฑ์จากมะพร้าว ผ้าบาติก เรือไม้จำลอง
ปณิธานความตั้งใจเพื่อให้ตลาดน้ำ ๔ ภาค (พัทยา) แห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเรียนรู้วิถีชีวิตพอเพียงที่สัมผัสได้ รวมถึงเป็นจุดศูนย์รวมของวัฒนธรรมความเป็นอยู่อย่างครอบคลุมในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นชีวิตความเป็นอยู่ การกิน การแสดง การค้าขาย รวมทั้งงานหัตถกรรมต่างๆ ที่ล้วนบอกเล่าเรื่องราว ความเป็นมา ความเจริญรุ่งเรือง และภูมิปัญญาของบรรพบุรุษที่สมควรได้รับการดูแล และคุณค่าแก่การอนุรักษ์ให้คงอยู่ตราบนานเท่านานโครงการตลาดน้ำ ๔ ภาค (พัทยา) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวบึงน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกแห่งเดียวที่จะคงไว้ซึ่งวิถีชีวิตคนไทยที่ยึดแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับเมืองพัทยา รวมถึงสร้างทัศนคติความประทับใจกับผู้มาเยือน
เว็บไซต์ของตลาดน้ำ4 ภาค
www.pattayafloatingmarket.com
ตลาดน้ำสี่ภาคนี้ยังมีการแสดงของไทยทั้ง 4 ภาค ให้ชมด้วยนะครับ บริเวณลานการแสดง แต่น่าเสียดายในวันที่ไปนั้นไม่ได้ชมเพราะเดินเล่นยังได้ไม่ทั่วเลย ต้องเดินทางต่ออีกแล้ว ใครที่แวะไปเที่ยวชมมาแล้วอย่าลืมมาฝากความคิดเห็นกันได้นะครับ