
ในวันที่ 2 นี้ ตื่นมาประมาณ 7 โมงเช้า ผมก็เอาไม้ทำฟืนที่ลูกหาบหาไว้ให้เมื่อคืนนี้มาก่อกองไฟ เพื่อต้มน้ำชงกาแฟตอนเช้า คนอื่นๆยังไม่ลุกกัน พอก่อกองไฟได้ซักพักก๊องก็ลุกมาช่วยเตรียมน้ำให้ พี่ลูกหาบเข้ามาถามว่าจะขึ้นยอดภูเข้กี่โมง พวกเราปรึกษากันอยู่สักครู่หนึ่ง ก็ตัดสินใจที่จะไม่ไปต่อ ขอนอนพักอยู่ตรงนี้ซักวันและพรุ่งนี้ค่อยลง เพราะเหนื่อยและล้ากันมาตั้งแต่เมื่อคืนเพราะเจอเหตุการณ์ที่ไม่ได้ตระเตรียมไว้ล่วงหน้าว่าจะต้องเดินป่ากันตอนกลางคืน จึงขอปักหลักตั้งฐานอยู่ ณ ที่เดิมนี่แหละ เพื่อจะได้พักผ่อนได้อย่างเต็มที่และจะลงจากภูวันรุ่งขึ้น พี่ลูกหาบจึงลงไปตัดน้ำที่ลำธารให้เพื่อใช้ล้างจาน ล้างหน้า ตอนนี้คนยังไม่ยอมลุกมาจากที่นอน เราจึงพัดเอาควันเข้าไปในเตนท์เพื่อไล่ยุง 555+ คนก็หนีออกมายังกับผึ้งแตกรัง เพราะทนดมควันไม่ไหว พอน้ำร้อนเดือดได้ที่ ก็เทใส่แก้วชงกาแฟกันยามเช้า จากนั้นก็มาหากับข้าวกับปลากินกัน

จากนั้นต่างคนก็พัอผ่อนเอาแรงกันต่อ จนเกือบเย็น ก็ลุงมาถ่ายรูปเล่นกันซักหน่อย พอก่อกองไฟเสร็จเรียบร้อยแล้วก็มาทำอาหารมือเย็นกัน มื้อนี้มีผัดมาม่าทรงเครื่อง กับยำไข่เค็ม และอย่างอื่นอีกแต่จำไมได้ เพราะอาหารที่เตรียมมาเยอะมาก พออาทิตย์ใกล้ตกดินก็กระโดนโพสท่ากับอย่างเมามันส์ ได้มาหลายช๊อตเลยก็ว่าได้ เมื่อตะวันหมดก็มาล้อมวงทานข้าวกัน หลังจากที่กินอิ่มแล้ว ก็มานั่งล้อมกองไฟ พูดคุยกันทั่วๆไป ทำให้นึกถึงกีต้าร์ซักตัว มาดีดเล่นกับ ช่วยสร้างบรรยากาศได้อีกเยอะเลยทีเดียว แต่กว่าจะได้นอนก็ต้องหาอะไรมาเล่นซักหน่อย เพราะเพิ่งหัวค่ำอยู่ หลายคนยังไม่ง่วงนอน จึงเอาไพ่มาเล่นกัน ทริปนี้ไม่มีเครื่องดื่มแก้หนาว เลยต้องเอามะนาวที่ซื้อมาผ่าเป็นซีกๆ แล้วจิ้มเกลือ ใครเป็น Slave ต้องกินให้หมด พูดไปแล้วเกิดอาการเปรี้ยวปากอยากกินมะนาวขึ้นมาทันที วันนั้นผมเองโดนไปหลายลูกอยู่เหมือนกัน กินจนเข็ดฟันไปเลย ซักพักก็เริ่มหนาวเพราะน้ำค้างลง จึงหลบเข้าไปในเต้นท์ แล้วก็หลับไปเลย


























































































































