วันที่ 2 ของทริปภูเก็ต วันนี้ตื่นแต่เช้าเลยครับ เพราะอยากไปดูพระอาทิตย์ขึ้น แต่ว่าฝนช่างเป็นใจ ลงเม็ดแต่เช้าเลยทำให้อากาศค่อนข้างหนาว ต้องหาคนข้างๆมากอด ^^ วันนี้ก็ได้ทริปที่ไร้จุดมุ่งหมายอีกแล้ว เพราะไม่ได้เตรียมตัวมาเลยจริงๆว่าจะไปเที่ยวที่ไหนบ้าง แต่ตั้งใจไว้แล้วว่าจะไปที่อุทยานแห่งชาติสิรินาถ เพื่อแต้มตราของอุทยาน จะให้เดินไปก็กระไรอยู่ เพราะคงไปได้ไม่ไกลนัก ผมจึงเช่ามอเตอร์ไซต์ 1 วัน ในราคา 200 บาท น้ำมันเต็มถัง ก่อนอื่นเลยก็จะลองขึ้นไปตามหาดเรื่อยๆ แต่ก็ไม่ค่อยชินกับเส้นทางนัก จึงได้ขอแผนที่ภูเก็ตมาดู จึงได้จุดหมายใกล้ๆ คือหาดในทอน ซึ่งอยู่ติดกับหาดในยางนี่เอง พอขับไปก็มีสายฝนโปรยลงมาเล็กน้อย เมื่อผมถ่ายรูปที่หน้าหาดอยู่ ก็เห็นมรสุมที่กำลังพัดพาเข้ามา เป็นเงาดำทะมึนมาแต่ไกล ชั่วอึดใจเดียวขณะที่กำลังจะสตาร์ทรถกลับนั้นเอง ฝนก็เทกระหน่ำลงมาทำเอาผมแทบตั้งตัวไม่ทัน พอขับวนกลับได้ไม่ถึงนาที ฝนก็กระหน่ำลงมาอย่างหนัก จึงจอดแวะที่ศาลาริมหาด ในตอนแรกคิดว่า
มันจะช่วยคุ้มฟ้าคุ้มฝนได้บ้าง แต่ไม่เลยครับ ยิ่งอยู่ชายทะเลด้วย ทำให้มีกระแสลมจากชายหาดพัดพาเอาละอองฝนเข้ามา ทำเอาผมเปียกไปเกือบทั้งตัวเลย ก็ได้ยืนหนาวอยู่ที่ศาลาอยู่พักหนึ่ง น่าจะประมาณชั่วโมงได้ ฝนก็ซาลง ก็เลยรีบขับรถกลับไปที่ห้องพักเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนจะถึงทางเข้าโรงแรม Indigo Pearl ก็เหลือบเห็นร้านข้าว ก็เลยแวะเข้าไป กะว่าจะสั่งข้าวทานซะหน่อย แต่เขาไม่ได้ขายข้าวครับ มีแต่ขนมจีน ผมก็เลยสั่งมาชิมจานหนึ่ง น้ำยาของเขาแปลกมากครับ ไม่เคยทานที่ไหนมาก่อน มันมีสีเขียวเหลืองๆ คล้ายกับแกงเขียวหวาน แต่รสชาติไม่ใช่ครับ รสชาติหวานถูกปากมากๆ ได้กลิ่นเครื่องเทศ ป้าคนขายเขาบอกมันเป็นสูตรของชาวใต้ ผมเรียกน้ำยานี้ไม่ถูกเหมือนกัน แต่ หรอยแรง! พอกลับมาที่ห้องก็รีบอาบน้ำแต่งตัว แล้วก็ออกมาอีกครั้ง คราวนี้ผมเข้าไปที่อุทยานแห่งชาติสิรินาถ เพื่อแต้มตรา ซึ่งเดิมนั้นชื่อว่า “อุทยานแห่งชาดหาดในยาง” บรรยากาศก็เงียบๆครับ มีห้องพักรับรองนักท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติสิรินาถนี้มีพื้นที่บริเวณชาวหาดยาว ตั้งแต่ หาดทรายแก้ว หาดไม้ขาว หาดในยาง และหาดในทอน เลยทีเดียว พื้นที่บนผืนดินนั้นมีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่อยู่ในทะเลอันดามัน
อุทยานแห่งชาติสิรินาถ
จุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ของอุทยานแห่งชาติสิรินาถคือ ชายหาดที่มีความร่มรื่นด้วยทิวสนธรรมชาติและพรรณไม้ป่าชายหาดที่ร่มรื่น มีความยาวต่อเนื่องกันถึง 13 กิโลเมตร ชายฝั่งทะเลยังประกอบไปด้วยแนวปะการังน้ำตื้นอันเป็นที่อยู่ของปลานานาชนิด ระยะเวลาที่เหมาะสมที่จะไปเที่ยวชมอุทยานแห่งชาติจะอยู่ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-เมษายน เพราะเป็นช่วงที่หมดฤดูมรสุม อากาศเย็นสบาย ท้องทะเลเรียบ ท้องฟ้าแจ่มใส โดยเฉพาะในช่วงเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ เป็นช่วงฤดูที่มีเต่าขึ้นมาวางไข่บริเวณชายหาดต่างๆ เช่น หาดในยาง หาดไม้ขาว และหาดสาคู
แหล่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
- หาดทรายแก้ว และหาดไม้ขาว เป็นชายหาดที่สวยงามมาก เหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจและการมานั่งรับประทานอาหาร
- หาดในยาง ซึ่งเป็นที่ทำการอุทยานฯมีหาดทรายที่สวยเหมาะสำหรับการดำน้ำแบบผิวน้ำมาก
- หาดในทอน ลักษณะเป็นเวิ้งอ่าวที่สวยงามหาดทรายทอดโค้งออกจากตัวเกาะ เป็นมุมที่สงบเหมาะสำหรับการพักผ่อน
- หาดลายัน เป็นหาดที่น่าสนใจอีกหนึ่งหาดที่สวยงาม หาดทอดยาวจนถึงหาดบางเทาเหมาะสำหรับการเล่นน้ำและพักผ่อนหย่อนใจ
- เกาะแวว เป็นเกาะที่อยู่กลางน้ำห่างจากฝั่ง 800 เมตร มีปะการัง ใต้น้ำหลายชนิด สามารถดำน้ำแบบผิวน้ำและแบบ scuba ได้ด้วย
- เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ระบบนิเวศป่าชายหาด เป็นเส้นทางที่น่าสนใจอีกเส้นทางหนึ่ง ชมพันธุ์ไม้และพืชที่ขึ้นในป่าชายหาด
กิจกรรมที่ทำได้ในเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถ
- เล่นน้ำ
- ดำน้ำดูปะการังผิวน้ำและแบบ scuba
- ถ่ายภาพ
- ปั่นจักรยาน
- ดูดาว
- พักผ่อนรับประทานอาหาร
- จัดประชุมสัมมนา
การเดินทาง
จากตัวเมืองภูเก็ตเดินทางมายังอุทยานแห่งชาติสิรินาถจากสี่แยกอำเภอกลางตรงขึ้นไปจนถึงแยกเข้าสนามบิน (แยกเืมืองใหม่) เลี้ยวซ้ายและตรงเข้ามา ประมาณ 5 กิโลเมตร ถึงทางแยกไปยังสนามบินและหาดในยาง ให้เลี้ยวซ้ายไปทางหาดในยางถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติสิรินาถเลยครับ มีเส้นทางอื่นๆอีกตามนี้ครับ จากพังงาผ่านสะพานท้าวเทพกระษัตรีและสะพานสารสิน ตรงเข้ามายัง อ.ถลาง ก่อนถึงตัวเมืองจะมีแยกเข้าสนามบิน ให้เลี้ยวขวา ตรงมาเรื่อยๆเจอทางแยก ไปยังสนามบินและหาดในยาง ให้เลี้ยวซ้ายไปทางหาดในยาง จะเจอกับอุทยานแห่งชาติสิรินาถ
- จากท่าอากาศยานดอนเมืองฯ – ท่าอากาศยานภูเก็ต ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที
- สถานีขนส่งภูเก็ต – ท่าอากาศยานภูเก็ต ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
- ท่าอากาศยานภูเก็ต – ที่ทำการอุทยานแห่งชาติสิรินาถ ใช้เวลาประมาณ 10 นาที
สถานที่ติดต่อ
อุทยานแห่งชาติสิรินาถ 89/1 หมู่ที่ 1 บ้านในยาง ต.สาคู??อ. ถลาง??จ. ภูเก็ต?? 83140 โทรศัพท์ 0 7632 8226, 0 7632 7152?? โทรสาร 0 7632 7152?? อีเมล sirinath_np@yahoo.com แผนที่การเดินทางไปอุทยานแห่งชาติสิรินาถ
เมื่อได้แต้มของอุทยานแห่งชาติสิรินาถแล้ว ฝนก็ตกลงมาอีก ทำให้เสียเวลาเดินทางไปนิดหน่อย แต่ก็ตกไม่มากครับ หลังจากนั้นแดดก็ออก อากาศกำลังดี เหมาะแก่การขับรถเที่ยวเลยละ ในช่วงที่ฝนตกนั้นผมก็นั่งคุยกับพี่เจ้าหน้าที่อุทยานเกี่ยวกับ อุทยานอื่นๆ ที่อยู่ใกล้เคียงกับที่นี่ ไหนๆ ก็มาถึงภูเก็ตแล้ว ก็ไปชมอุทยานอื่นๆ บ้างดีกว่า ซึ่งตอนขามานั้นผมสังเกตุเห็นป้ายบอกทางไปอุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง ,อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา, อุทยานแห่งชาติสิมิลัน และอุทยานแห่งชาติเขาหลัก-ลำรู่ ทั้งหมดนี้อยู่ในพื้นที่ของจังหวัดพังงา ซึ่งก็น่าจะไม่ไกลนัก ผมจึงตัดสินใจซิ่งรถมอไซต์ย้อนกลับไปที่ จังหวัดพังงา เพื่อที่ที่อุทยานแห่งชาิติ เขาลำปี-หาดท้ายเหมือง ก่อนเป็นอันดับแรก เพราะใกล้ที่สุด ระยะทางจาก อช.สิรินาถ ถึง อช.ลำปี-ท้ายเหมือง ประมาณ 25 กิโลเมตร เมื่อผมมาถึง ก็พบกับบรรยากาศคล้ายๆ กับที่ อช.สิรินาถเลย เป็นชายหาดติดริมทะเล มีต้นสนและพื้นพันธุ์ริมชายหาดเหมือนกัน
อุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง
เป็นหาดที่มีลักษณะค่อนข้างตรงและยาวจากอำเภอท้ายเหมืองไปจนถึงเขาหน้ายักษ์ ในช่วงไม่มีมรสุมสามารถเล่นน้ำได้ แต่ไม่เหมาะเล่นน้ำในช่วงมรสุมที่มีคลื่นลมแรงเนื่องจากชายฝั่งมีความลาดชันมาก บริเวณหาดท้ายเหมืองจะมีเต่าทะเลขึ้นมาวางไข่ ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-เมษายน ของทุกปี ทางอำเภอท้ายเหมืองจึงจัดให้มีงานประเพณีอนุรักษ์เต่าทะเล ระหว่างวันที่ 1-9 มีนาคมทุกปีโดยกำหนดกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวเข้าร่วมทำกิจกรรม คือ การปล่อยเต่าทะเล การดูเต่าทะเลวางไข่ นักท่องเที่ยวที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมต้องปฏิบัติตามที่อุทยานแห่งชาติกำหนด มิฉะนั้น จะเป็นการรบกวนเต่าทะเลที่ขึ้นมาวางไข่
กิจกรรม
- กิจกรรมชายหาด
- ขี่จักรยานศึกษาธรรมชาติ
- ชมทิวทัศน์
- แค้มป์ปิ้ง
สถานที่ติดต่อ
อุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง หมู่ที่ 5 ต.ท้ายเหมือง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา 82120 โทรศัพท์ 08 4059 7879, 0 7641 7206 โทรสาร 0 7641 7206?? อีเมล lampi_thaimueang_np@hotmail.com
การเดินทาง
รถยนต์ เดินทางตามทางหลวงแผ่นดินซึ่งจะมีสายหลักๆ 3 สาย คือ
- ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 เส้นทางถนนนเพชรเกษมเป็นทางหลวงแผ่นดินสายหลักของภาคใต้ เป็นทางเรียบชายฝั่งทะเลด้านตะวันตก รวมระยะทางจากกรุงเทพฯ ถึง พังงาประมาณ 839 กิโลเมตร
- ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 401 ซึ่งจะแยกจากทางหลวงหมายเลข 4 ที่อำเภอตะกั่วป่า ผ่านจังหวัดสุราษฎร์ธานี สิ้นสุดเส้นทางที่จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยใช้เส้นทาง สุราษฎร์ธานี – ตะกั่วป่า – ท้ายเหมือง ระยะทาง 210 กม.
- ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 402 เส้นทางสายโคกกลอย – ภูเก็ต โดยใช้เส้นทาง ภูเก็ต – โคกกลอย – ท้ายเหมือง หรือ พังงา – โคกกลอย -ท้ายเหมือง ระยะทาง 66 กม.
เครื่องบิน
เนื่องจากจังหวัดพังงาอยู่ห่างจากสนามบินภูเก็ตซึ่งเป็นสนามบินนานาชาติเพียง 66 กิโลเมตร ดังนั้นการเดินทางเข้าสู่จังหวัดพังงาโดยเฉพาะอำเภอท้ายเมืองด้วยเครื่องบินจึงสะดวกมาก แล้วเดินทางต่อโดยรถยนต์ตามทางหลวงหมายเลข 402 สนามบิน – โคกกลอย -ท้ายเหมือง ระยะทาง 40 กม.
รถโดยสารประจำทาง
- ใช้รถโดยสารประจำทาง กรุงเทพฯ – พังงา รถ ป.2 ราคา 357 บาท รถ ป.1 ราคา 441 บาท และจากพังงาถึงอุทยานฯ ระยะทาง 62 กม. เดินทางต่อถึงอำเภอท้ายเหมืองโดยรถสองแถว พังงา – ท้ายเหมือง ราคา 30 บาท แล้วเดินทางต่อถึงอุทยานฯ โดยรถจักรยานยนต์รับจ้างราคา 30 บาท
- ใช้รถโดยสารประจำทาง กรุงเทพฯ – ท้ายเหมือง รถ ป.2 ราคา 370 บาท รถ ป.1 ราคา 451 บาท เดินทางถึงอุทยานฯ โดยรถจักรยานยนต์รับจ้างราคา 30 บาท
- ใช้บริการ รถ กรุงเทพฯ – โคกกลอย รถ ป.2 ราคา 375 บาท รถ ป.1 ราคา 485 บาท แล้วเดินทางต่อถึงอำเภอท้ายเหมืองโดยรถประจำทาง โคกกลอย – อำเภอท้ายเหมือง ราคา 20 บาท เดินทางต่อถึงอุทยานฯ โดยรถจักรยานยนต์รับจ้างราคา 30 บาท
แผนที่การเดินทางไปอุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง
คลิกเพื่อดูภาพใหญ่
ข้อมูลแน่นเชียวสำหรับบันทึกนี้ แต่ยังไม่ได้หมดแค่นี้นะครับ เพราะยังมีอีก ผมยังไม่หยุดแค่ 2 อุทยานฯ แน่นอน ไหนๆ ก็มาทั้งทีแล้ว ก่อนจะไปเที่ยวต่อก็แวะที่ตลาดของ อ.ท้ายเหมืองเสียหน่อย เพื่อเติมพลัง ได้ชิมเย็นตาโฟ ที่ใส่กุ้งชุบแป้งทอดของที่นี่แล้ว อยากให้แถวบ้านทำแบบนี้้บ้างจัง เขาใช้กุ้งชุบแป้งทอดแทนการใช้เกี้ยวทอดครับ รวม pepsi 1 ขวด?ราคา 35 บาท จากนั้นก็บึ่งมอไซต์ไปเติมน้ำมันซักหน่อย จ่ายค่าน้ำมันไป80 บาท หลังจากนั้นก็ออกตามล่าหาตราอุทยานแห่งชาติต่อไปครับ