ห่างหายไปนานเลย กว่าจะมาอัพได้แต่ละครั้ง จริงๆแล้วไม่ได้หายไปไหน พักนี้ต้องออกทริปบ่อย เมื่อ3 อาทิตย์ก่อนก็ไปประจวบฯมาครับ ไปกับแฟนและก็น้องๆ ที่อาชีวพระนครศรีอยุธยา ไปกับโครงการอบรมปฏิบัติการนำเที่ยว ครั้งนี้ก็มีพี่ไกด์ใจดี 2 ท่าน มาให้การอบรม คือพี่ปรัช และพี่เอ็ม ก่อนที่จะไปถึงประจวบฯนั้น คณะเราก็ได้แวะไปที่ “ตลาดน้ำดอนหวาย” หรือบางคนก็เรียกว่า “ตลาดดอนหวาย” ซึ่งเป็นตลาดที่โด่งดังของเมืองนครปฐมเลยก็ว่าได้ สภาพโดยทั่วไปที่ผมไปสัมผัสมาจะเป็น ตลาดที่บรรยากาศคล้ายๆ สามชุก แตกต่างกันที่จุดขาย ที่ดอนหวายนี้ จุดขายของเขาน่าจะเป็นเรื่องของ ขนม และของกิน ที่แสนอร่อย ที่ใครไปใครมา ก็ต้องแวะมาชิม มาลอง ยิ่งขนมไทยของที่นี้ ก็ขึ้นชื่อเลยละครับ เพราะมีหลายอย่างมาก บางชนิดผมเองก็เพิ่งเคยทานเป็นครั้งแรก และที่ขาดไม่ได้เลยคือ “เป็ดพะโล้นายหนับ” ที่เลื่องชื่อมากๆ จากที่ฟังเขาเล่าๆกันมา แต่ก่อนขายได้วันละไม่กี่สิบตัว แต่ในปัจจุบันขายได้เป็นร้อยๆ ตัวต่อวันแล้ว โอ้วว น่าตกใจมาก แต่ด้วยทำเลของตลาด ที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก ขับรถแป๊บเดียวก็ถึงแล้ว ทำให้ไปมาหาสู่ได้ง่าย และสะดวกในเรื่องของการเดินทาง ทำให้ตลาดที่นี่คับคั่งไปด้วยผู้คนจากกรุงเทพ และจากทั่วสารทิศ
วันที่คณะของเราไปที่ตลาดดอนหวายนี้ เป็นวันธรรมดา ทำให้คนไม่ค่อยเยอะมากมายนัก สินค้าที่ขายส่วนใหญ่ที่ผมเห็นจะเป็นสินค้าทางการเกษตร พวกพืชผัก ที่ใส่ถุงห่อไว้อย่างดี ดูแปลกตาจากตลาดสดบ้านเรามากๆ ที่เวลาขายจะใส่ตะกร้าแล้วเอามาชั่งกิโลขาย แต่ที่นี่จะใส่ถุงพลาสติกไว้เรียบร้อยแล้ว อีกอย่างหนึ่งที่เยอะพอๆ กันคือขนมไทย พวกทองหยิบทองหยอด ?ขนมตาล ขนมจัน และขนมอื่นๆ ที่ผมไม่ทราบชื่อ และบางอย่างก็จำชื่อมันไม่ได้แล้ว แต่รับรองได้ครับว่าอร่อยและ ถูกปากคนไทยแน่ๆ ด้วยความหวานหอม ของขนมไทยเดิมนี่เอง และสุดท้ายก็จะเป็นเป็ดพะโล้ ที่เขาต้มกันครั้งนึง เป็นสิบๆ ตัว ใช้ถัง ย้ำนะครับ ถัง ไม่ใช่หม้อที่เราใช้ต้มแบบบ้านเรา แต่เป็นถังขนาดใหญ่เลย ต้มทีละเป็นสิบๆ ตัว ผมยังคิดในใจว่า เขาจะขายหมดหรอวันๆ นึง แต่มีคนยืนยันกับผมแล้วครับว่าขายหมด แสดงว่าวันๆ นึงเงินที่ตลาดดอนหวายนี่คงหลายแสนบาทอยู่ ไม่แน่อาจจะเหยียบหลักล้านก็ว่าได้
ที่นี่มีบริการเรือสำหรับชมสองริมฝั่งแม่น้ำท่าจีนด้วย ค่าบริการเรือโดยสารนี่ผมไม่แน่ใจ ต้องหาข้อมูลจากที่อื่นมาประกอบนะครับ เรือจะล่องไปตามแม่น้ำ ชมวิวทิวทัศน์รอบๆ ถ้ามีเวลามากกว่านี้ผมคงได้ล่องเรือเล่นเป็นแน่แท้ แต่ด้วยเวลาที่จำกัดจึงไม่ได้ ดื่มด่ำกับบรรยากาศของตลาดดอนหวายมากนัก สุดท้ายนี้ของตบท้ายด้วยข้อมูลของตลาดดอนหวาย และการเดินทางไปที่นี่นะครับ
ประวัติของตลาดดอนหวาย
ตั้งอยู่ที่ ต. บางระทึก อ. สามพราน จ.นครปฐม ริมแม่น้ำท่าจีน ความยาวของตลาดประมาณ 300 เมตร อยู่ติดกับวัดคงคารามดอนหวายตลาดมีลักษณะตัวอาคารเป็นอาคารไม้เก่า ๆ ตั้งแต่อดีตสมัยรัชกาลที่ 6 ที่อยู่ติดริมแม่น้ำท่าจีน มีพ่อค้า แม่ค้า นำสินค้า และอาหารมาจำหน่ายในบริเวณวัดดอนหวาย มีตลาดนัดสินค้าทางการเกษตรที่วัดดอนหวายทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-18.00 น. และมีเรือบริการนำเที่ยวชมทิวทัศน์ของสองฝั่งแม่น้ำท่าจีน
ตลาดเริ่มบูมตั้งแต่ปี 42-43 สมัย IMP ข้าวของแพง คนไทยประหยัด จึงค้นหาสินค้าราคาประหยัดเดิมทีเป็นเพียงตลาดภายในชุมชนที่ไม่ได้ใหญ่โตหรือมีชื่อเสียงโด่งดังอะไร ในยุคที่การสัญจรและการค้าขายทางน้ำยังคับคั่ง ชาวบ้านจะพายเรือแจวมาซื้อหาข้าวปลาอาหาร ที่ตลาดดอนหวายกันทุกวัน จนมาชั่วเวลาหนึ่ง สีสันการค้าขายของชุมชนแห่งนี้ก็จืดจางลงไป เนื่องจากมีการสร้างถนนวัดไร่ขิง ตัดผ่านหน้าชุมชนเมื่อประมาณ 30ปีที่แล้ว เป็นเหตุให้ชาวบ้านหันไปซื้อหาของจากนอกชุมชนแทน เพราะการเดินทางสะดวกขึ้น พ่อค้าแม่ขายในตลาดดอนหวาย จึงต้องโยกย้ายแหล่งทำมาหากินไปอยู่ที่อื่น ตลาดดอนหวายเกือบจะกลายเป็นตลาดร้าง มีร้านค้าอยู่ไม่ถึง 10 ร้านที่ยังคงยืนหยัดค้าขายอยู่
จนมาวันหนึ่ง ประมาณปีครึ่งที่ผ่านมา เมื่อทีมงาน “เที่ยวไป กินไป” จากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ นำทีมโดย พลเอก โอภาส โพธิแพทย์ ได้เดินทางไปรับประทานเป็ดพะโล้ที่ร้านนายหนับ และตีพิมพ์เรื่องราวเป็ดพะโล้รสอร่อยของร้านนายหนับ และบรรยากาศตลาดดอนหวายสู่สาธารณชน ตั้งแต่วันนั้นก็เสมือนว่า ตลาดดอนหวายได้เกิดใหม่เป็นครั้งที่ 2 เพราะเช้าวันรุ่งขึ้น ตลาดดอนหวายก็เต็มไปด้วยผู้คนนับร้อยที่ต้องการมาพิสูจน์ความเอร็ดอร่อยของอาหารชนิดต่าง ๆ และชื่นชมบรรยากาศเก่า ๆ ที่นับวันจะหายากขึ้นทุกที พ่อค้าแม่ขายที่เคยย้ายไปค้าขายอยู่ที่อื่น เมื่อรู้ข่าวว่าตลาดดอนหวายกลับมาคึกคักอีกครั้ง ต่างก็พร้อมใจกันกลับมาค้าขาย ณ ตลาดเดิม พ่อค้าแม่ค้าจากที่ไกล ๆ เช่น อยุธยา ปทุมธานี ระยอง ฯลฯ ก็นำสินค้ามาจำหน่ายด้วย จำนวนร้านค้าจึงเพิ่มมากขึ้น สินค้าก็หลากหลายไปกว่าแต่ก่อน ประกอบกับรายการโทรทัศน์ และสื่อชนิดต่าง ๆ ทยอยกันทำข่าวเกี่ยวกับอาหารบ้าง เกี่ยวกับตลาดบ้างไม่เว้นแต่ละวัน อีกทั้งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ก็ช่วยประชาสัมพันธ์อีกแรงหนึ่ง ตลาดดอนหวายจึงมีชื่อเสียงโด่งดังอย่างรวดเร็วทุกวันนี้นอกจากนักท่องเที่ยวในจังหวัดใกล้เคียงแล้ว นักท่องเที่ยวจากจังหวัดที่อยู่ไกลออกไป เช่น สุพรรณบุรี ระยอง ฯลฯ รวมไปถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ก็จะหาโอกาสแวะมาซื้อหาของกินอร่อย ๆ ที่นี่ แต่ที่มากสุด ก็เห็นจะเป็นนักท่องเที่ยวจากกรุงเทพฯนั่นเอง เหตุผลหนึ่งอาจเป็นเพราะระยะทางไม่ไกลมากนัก และถนนหนทางก็สะดวก มีแผ่นป้ายบอกทางเข้าตลาดดอนหวายอย่างเด่นชัด นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักมีวัตถุประสงค์ที่แน่นอน คือถ้าไม่มาซื้อเป็ดพะโล้ ก็ต้องมาซื้อขนมไทยซึ่งมีหลากหลาย หรือไม่ก็ห่อหมกปลาช่อน เพราะทั้งสามอย่างนี้เป็นอาหารขึ้นชื่อ ขนาดว่าถ้าใครมาตลาดดอนหวายแล้วไม่ได้ซื้ออย่างใดอย่างหนึ่งในสามอย่างนี้กลับไป ก็แสดงว่ามาไม่ถึงตลาดดอนหวาย ในตลาดยังมีของอร่อย ๆ อีกมายมายให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อ ทั้งน้ำอ้อย น้ำตาลสด น้ำมะพร้าวอ่อนที่หอมหวานน่าดื่ม บรรจุในตุ่มดินเผาใบเล็ก ๆ ทำให้เมื่อดื่มแล้วรู้สึกเย็นชื่นใจยาวนาน ช่วยบรรเทาความเหนื่อยล้าหลังการเดินซื้อของได้ดีทีเดียว นอกจากนี้ก็ยังมีผักและผลไม้นานาชนิดจำหน่ายในราคาย่อมเยา โดยเฉพาะส้มโอ ผลไม้ขึ้นชื่อของนครชัยศรีที่เจ้าของสวนขนมาขายเอง จึงมั่นใจได้ในเรื่องคุณภาพ และสามารถต่อรองราคากันได้
ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนบรรยากาศการรับประทานอาหาร ที่นี่เขาก็มีบริการล่องเรือชมบรรยากาศสองฟากแม่น้ำท่าจีนไปพร้อม ๆ กับการรับประทานอาหาร เป็นระยะเวลาหนึ่งชั่วโมงครึ่งโดยประมาณ หรือถ้าไม่ต้องการรับประทานอาหาร เพราะอิ่มอร่อยไปเรียบร้อยแล้ว จะนั่งเรือชมบรรยากาศอย่างเดียวก็ได้ สนนราคาค่าโดยสารแตกต่างกันไปตามความเหมาะสม และจะมีเรือออกเป็นรอบ ๆ ไปสำหรับบรรยากาศทั่ว ๆ ไปของตลาดดอนหวายนั้น ในวันธรรมดาจะเงียบเหงา แต่พอถึงวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ผู้คนจะแน่นขนัดชนิดเดินหลีกกันไม่พ้นทีเดียว
แม้ตลาดแห่งนี้จะไม่ใช่ตลาดที่ก่อตั้งและพัฒนาตัวเองมาอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 100 กว่าปีที่ผ่านมา แต่การที่ตลาดแห่งนี้หวนกลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง ก็เพราะความร่วมมือของคนในชุมชน ที่พยายามจะดำรงรักษาให้ตลาดแห่งนี้คงอยู่คู่ชุมชนต่อไป แต่ท่ามกลางกระแสการท่องเที่ยวที่เชี่ยวกรากเช่นนี้
ชาวชุมชนจะรักษาตลาดโบราณริมแม่น้ำท่าจีนแห่งนี้ไว้ได้นานสักแค่ไหน เป็นสิ่งที่คนในชุมชนต้องใคร่ครวญ และเตรียมรับมือด้วยเช่นกัน
การเดินทางสู่ตลาดน้ำดอนหวายและวัดไร่ขิง
ขับรถมาเอง
เส้นทางที่หนึ่ง
จากสะพานปิ่นเกล้า มุ่งตรงไป ถนนปิ่นเกล้า – นครชัยศรี ผ่าน ถนนพุทธมณฑล สาย 1-2-3 เมื่อผ่านถนนพุทธมณฑลสาย 4
สังเกตป้ายบอกทางเลี้ยวซ้ายเข้าพุทธมณฑลสาย 5 ขับเข้ามายังถนนพุทธมณฑลสาย 5 ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร
ก็จะเจอสี่แยกเลี้ยวขวา มุ่งตรงสู่วัดดอนหวาย รวมระยะทางจาก สะพาน ปิ่นเกล้า – วัดดอนหวาย 27 กิโลเมตร ใช้เวลา
ประมาณ 15 – 30 นาที
เส้นทางที่สอง
ใช้เส้นทาง ถนนเพชรเกษม จากสี่แยกท่าพระ ตรงมาเรื่อยๆ ผ่าน บางแค หนองแขม ผ่านทางแยกเข้าพุทธมณฑล สาย 4
ตรงมาเรื่อยๆ เมื่อถึงทางแยกถนนพุทธมณฑลสาย 5 เลี้ยวขวา ตรงมาระยะทาง 6 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายมุ่งตรงสู่วัดดอนหวาย
รวมระยะทาง 30 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 30 – 60 นาที
นั่งรถเมล์ – รถตู้ประจำทาง
- รถตู้ปรับอากาศ เมอรี่คิงส์ปิ่นเกล้า – วัดดอนหวาย – วัดไร่ขิง ราคา 40 บาท ใช้เวลาประมาณ 20 -40 นาที
- ถนนเพชรเกษม คุณสามารถใช้บริการ รถโดยสารปรับอากาศสาย ( ปอ.) 84 ( 12- 19 บาท) ลงตรงปากทางเข้าวัดไร่ขิง?(ให้สังเกตุสวนสามพราน ก็ลงป้ายถัดไปได้เลย) และต่อรถสองแถวประจำทาง เข้ามาวัดดอนหวาย ( 7 -10 บาท)?หรือไม่ทันใจ…ก็สามารถใช้บริการรถมอเตอร์ไซด์คิว ( 40 -50 บาท) ได้เลย.
- สถานีขนส่งสายใต้ คุณสามารถใช้บริการรถโดยสารที่จะไปยัง จังหวัด นครปฐม ราชบุรี กาญจนบุรี
( ตอนขึ้นบอกกับพนักงานซักนิด “จะไปดอนหวาย ช่วยจอดปากทางเข้าหน่อยนะค่ะ/ ครับ”
เมื่อถึงปากทางคุณก็สามารถใช้บริการรถสองแถวได้ทั้งสองฝั่ง ทั้งทาง ถนนเพชรเกษมและถนนปิ่นเกล้านครชัยศรี..
ขอบคุณการเดินทางและแผนที่จาก
http://www.photoontour.com/gallery2/donwai/donwai.htm