Menu

บันทึกภูสอยดาว ตอนที่ 8 จบแล้วว

December 20, 2007 - ทอล์คทูทริป, เที่ยวถ่ายภาพ, เที่ยวผจญภัย, เที่ยวภูเขา, เที่ยวฤดูฝน, เที่ยวฤดูหนาว
บันทึกภูสอยดาว ตอนที่ 8 จบแล้วว

ภูสอยดาว เรามาเหยียบแล้ว และนี่ถือเป็นอันสิ้นสุดการเดินทาง พิชิตยอดภูสอยดาวแล้ว ตอนสุดท้ายนี้ได้เพื่อนร่วมทางมาอีก 2 คน จะเห็นว่า มิตรภาพกับการท่องเที่ยวมีอยู่ทุกที่จริงๆ


พอเราลงมาถึง ผมพบว่า มีใครบางคน เขาได้รักษาคำพูดไว้ ว่าเขาจะมารับเรา ในวันที่ 16 ตอนเที่ยง ซึ่งเราได้นัดเวลาเขาไว้เที่ยว แต่พวกเรามาถึงก็ เกือบ 4-5 โมงเย็นแล้ว ผมก็มัวแต่ถ่ายรูป จนไม่ทันสังเกตุ ว่าแกนั่งรอเราอยู่ เราก็เดินเข้าไป แกก็บ่นนิดๆ ว่า “นี่ถ้าไม่ติดว่ารับปากไว้เนี่ย ไปแล้ว” 555+ ท่าทางแกเป็นคนขำๆ หุ่นอ้วนๆ ตัวใหญ่ๆ แต่รักลูกมาก แกคุยเรื่องครอบครัวแกให้ฟังตอนขามา ผมรู้เลยว่า ผู้ชายที่มีเมียแล้ว การออกจากบ้านซักที มันยากลำบากขนาดไหน 555+ แล้วเราก็ ตกลงกับพี่เขาว่า จะให้ไฟส่งที่ พิษณุโลกเลยนะ เพราะเราไม่อยากรอรถ ที่ชาติตระการเพราะกว่าจะถึงบ้านก็คงไม่น้อยกว่าเที่ยงคืนแน่ๆ ?จมส์กับตุ้งก็ไปด้วย เราก็ขนของขึ้นรถ น้าแกขับรถไวมาก หรือเพราะว่าผมหลับก็ไม่ทราบ แป๊บเดียวจาก อทช.ภูสอยดาวถึง จ.พิษณุโลก แล้วไวจัง แล้วเราก็ไปจองตั๋วรถเพื่อกลับ กทม

ทีนี้ รู้สึกไม่ดีกับ บขส.พิษณุโลก ทั้ง ขาไปขากลับเลย ทำให้รู้สึกว่า คนแถวนี้ ไวใจไม่ค่อยได้ ชอบหาผลประโยชน์กันจริงๆ เลย คือว่า เราอยากหาอะไรทานกันก่อน เราก็ไปจองตั๋ว เขาบอกเหลือ 5 ที่พอดี รถออก 1 ทุ่ม อ้าว นี่มัน 18.50 น. แล้ว จะไปกินอะไรทัน ผมก็เลยถามเขาว่า มีรอบอื่นมั้ย เขาบอกว่ามีรอบ 19.30 น. ผมก็เลยตกลงจะเอารอบนี้ เจมส์เองก็อยากกลับไวๆ แต่ตุ้งก็จะกลับ อีกคัน เพราะไม่อยากรีบ ผมเองยังไงก็ได้ พอคุยไปคุยมา ผมเลยไปหาซื้อขนมมาตุนไว้ เพราะว่ายิ่งยืนกันอยู่นานก็ยิ่งหิว ไม่แน่ใจว่ายังไง ก๊องมาบอกผมว่า
?พี่ รถทุ่มครึ่งไม่มี เขาบอกว่าต้องรอ 2 ทุ่ม ครึ่ง? เฮ้ย นั่นมันอีก ชั่วโมงเลยนะ
เพราะผมเห็นรถ พิษณุโลก วิ่งออกไปเมื่อกี้แว๊บๆ ทีนี้เจ๊แกก็ ออกมาจากตู้ แล้วก็มาบอกว่า ตกลงจะไปรอบ 2 ทุ่มครึ่งมั้ย ถ้าไม่ไปเดี๋ยวเรียกรถให้รอ…
พวกเราก็ตัดสินใจกันว่าจะไปคันเมื่อกี้แล้วกัน ไหนๆ ก็ซื้อขนมมาแล้ว คงไม่เป็นไร เขาเรียกรถ ที่คล้ายๆ รถตุ๊กๆ แต่เป็น นั่ง 2 แถว ผมไม่ เราก็ขนของขึ้นรถแล้ว ทีนี้ รถแม่งวิ่งไปไม่กี่เมตร..! น้ำมันเสือกหมดอีก โฮ อะไรจะดวงดีขนาดนี้ ผมกับเพื่อนก็ต้องเดินครับ “เดิน” แล้วแบกของกันเหมือนย้ายบ้านยั่งงั้นน่ะ ต้องเดินแบกของในตัวเมือง พิโลก สุดๆ ไปเลย พอมาถึงตามที่ๆ เขาบอกไว้ ผมจำไม่ได้ว่า เจ๊แกเก็บค่าโดยสารเราไปเท่าไหร่ แต่จำได้ว่าแพงกว่าขาไปมากครับ ทั้งๆ ที่ลงนวนคร ตอนที่ถึงที่รถ ในใจผมก็คิดว่ารถเขามาจอดรอจริงๆ แล้วมันก็ว่าง 5 ที่จริงๆ ก็ไม่ได้เอะใจ จนรถมาถึงร้านอะไรซักอย่างแถวๆ นครสวรรค์นี่แหละมั้งครับ ที่แต่งร้าน แต่งห้องน้ำสวยๆ เจ้าของร้าน น่ารักมากกกกกกกกกกกกกก แต่ แสงจากแหวนที่นิ้วนางทำให้ผมตาสว่าง 555+ พอซื้อของอะไรเสร็จแล้วก็เดินขึ้นรถ ผมสังเกตุว่า เฮ้ย ทำไมมันเป็นรถ ของ สุโขทัยศรีสัชนาลัย ล่ะ เอ๊ะ ยังไง พอมานั่งบนรถ ก็พอจะนึกออกว่าเจ๊แกน่ะ เอาค่าหัวเรา ซึ่งเราเองก็ไม่ทราบว่า ค่ารถคันนี้เท่าไหร่ แล้วบอกเราว่า รถจอดรออยู่ ที่แท้ มันคนละคันกัน อันนี้แกได้ % แน่ๆ เฮ้อ….โดนหลอกทั้งขาไป ขากลับเลยน้อ…ตี 2 ครับ มาถึงรังสิต ที่ถึงรังสิตเพราะว่าเราน่ะหลับ กัน จนเลยนวนคร

เป็นอันว่าสิ้นสุดการเดือนทางในครั้งนี้ อย่างสมบูรณ์ครับ

phusoidoa8

สนใจสอบถามข้อมูล แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเราได้ที่ facebook fanpage

CLOSE