Menu

บันทึกภูสอยดาว ตอนที่ 5

December 20, 2007 - เที่ยวถ่ายภาพ, เที่ยวผจญภัย, เที่ยวภูเขา, เที่ยวฤดูหนาว
บันทึกภูสอยดาว ตอนที่ 5

เส้นทางอันยากลำบากและความสูงระดับเมฆท้าให้เราพิชิต มือหนึ่งแบกกล้องอีกหนึ่งจับเชือก ปีนป่ายลัดเลอะไปตามสันเขาอันน่าหวาดเสียว เชื่อแล้วว่ายิ่งสูงยิ่งหนาว แม้แดดตอนเที่ยงจะแรงเพียงไร ก็ทำเอาขนลุกชัน มือไม้สั่นได้ ที่สุดของยอดภูสอยดาวคือ หลักแบ่งเขตไทย-ลาว งานนี้ถ้าไม่ได้สาว ๆ จาก ม.ราม เดินนำหน้า เราคงไม่รู้ว่าวีรสตรีไทยสมัยก่อน แข็งแกร่งเพียงใด?

Copy & ReWrite

เมื่อมาถึง ณ จุดสูงที่ซู๊ดดดดของ “ภูสอยดาว” แล้วพวกเราก็นั่งพักกันให้หายเหนื่อย จากนั้นก็อดไม่ได้ที่จะถ่ายภาพต่อไป?สำหรับพี่คนนี้เป็นเจ้าหน้าที่?นำทางของอุทยาน แกกำลังนั่ง ว.กับเจ้าหน้าที่ด้านล่าง ส่วนอีกภาพหนึ่ง เป็นแก๊งสาว “หลายพันปี” ผมยอมรับเลยว่า “อึดจริงๆ”?พอมาถึงพวกเธอก็ แกะอาหารกินกันเลยครับ สังเกตุนะครับว่า เราไม่เห็นอะไรเลย มันเต็มไปด้วยเมฆหมอกทั้งนั้นเลย เฮ้อ…?หรือว่ามาครั้งนี้จะเสียเที่ยว เห็นหมอกแบบนี้แล้วท้อใจ ส่วนของที่เราเตรียมกันมามีเพียงน้ำและ มาม่าเท่านั้น?เพราะว่าเราขี้เกียจแบกกันขึ้นมา ในขณะที่พวกพี่บาว เตรียมอาหารกันมาเต็มที่เลย?ยังกับมา “ปิ๊กนิค” ยังงั้นแหละ ส่วนเพื่อนร่วมทางอีก?2 คน นั่นคือ ตุ้ง และ เจมส์ ก็เตรียมกันมาพอๆ?สำหรับ 2 คน ซึ่งข้าวที่เจมส์หุงมาก็ออกมีกลิ่นไหม้กรุ่นๆแล้วพี่บาวก็ชวนเราล้อมวง กินข้าวด้วยกัน ?ดาว? แฟนของพี่บาวก็แบ่งข้าวและกับ มาให้วันนั้นพวกเลยไปแย่งเขากิน 555+ ?ด้วยความที่เหนื่อยและมื้อเช้าเราทานกันได้ไม่เต็มที่ กับข้าวที่ดูธรรมดาๆ อาทิ ไข่ต้ม ปลากระป๋อง แต่บอกได้คำเดียวว่า “หร่อยแรง” พวกพี่บาวแกเป็นคนใต้น่ะครับ นี่แหละครับ “น้ำใจ” เหนือจรดใต้ ยังไงก็ยังได้ชื่อว่าคนไทยเหมือนกัน เราอยู่ร่วมกันในสังคม ถ้าเรารู้จักการให้มากกว่าที่จะเป็นผู้รับ ก็นับว่าเป็นสิ่งที่ทุกๆศาสนาพึงให้ศาสนิกชนทุกคนประพฤติปฏิบัติตาม จะทำให้สังคมนี้น่าอยู่และสงบร่มเย็นมากขึ้น ผมภวานาให้สถานการณ์ไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ยุติลงโดยเร็ว

มาต่อเรื่องของผมบ้าง หลังจากที่เราพักกันจนหายเหนื่อย ก็ถ่ายภาพไปพลางๆ อากาศหนาวพอประมาณ พออยู่นานๆ เข้า ความรู้สึกเหนื่อยก็เริ่มหดหายไป เนื่องจากอากาศข้างบนนี้ เย็น และมีละอองน้ำ ผมขอเรียกว่า “เมฆ” ก็แล้วกัน มันจะถูกลม พัดขึ้นมาบนยอดเขาตลอดเวลา ซึ่งมีอยู่ช่วงนึงที่ฟ้าเปิด?ที่ทำให้เราได้ มองเห็นพื้นด้านล่างอย่างชัดเจนมันสูงมากเลยครับ?สูงจนสามารถมองเห็นเต้นท์ของพวกเราที่อยู่ด้านล่าง?เล็กเท่ามดเลย

นี่แหละครับ “พี่บาว” ผู้พิชิตภูสอยดาว?หน้าตาพี่แกไม่ต้องบอกก็รู้ครับ… ว่าอยู่ภาคไหน??เวลาที่ผมถ่ายภาพขณะนั่น ประมาณ เที่ยง กว่าๆ?จะบ่ายโมงแล้ว แต่จะสังเกตเห็น กลุ่มหมอก?ที่ยังคงปกคลุมไปทั่ว ซึ่งบางส่วนถูกลมพัดมาจากทางฝั่งลาว ยอดภูสอยดาวที่เรากำลังยืนอยู่นี้ เป็นเขต รอยต่อระหว่างประเทศไทย กับประเทศลาว บนยอดภูสอยดาวนี้ถ้ามองจากด้านล่าง จะเห็นจุดเล็กๆ สีขาวๆ อยู่บนยอด แต่ตอนนี้เรารู้แล้วว่าไอ้จุดยาวๆ ที่ว่านี้คืออะไร เป็นแท่ง คล้ายๆ เสากิโลเมตร ขนาดใหญ่ ที่ด้านหนึ่งมี “ตราครุฑของไทย” และตัวพิมพ์เป็นภาษาไทยว่า ประเทศไทย Thailand ส่วนอีกด้านหนึ่ง เป็นตราปั้ม อีกเช่นกัน เป็นตรารูป “พระธาตุหลวง” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์?ของประเทศลาวนั่นเอง

แล้วนี่ก็คือ เจมส์และตุ้ง เพื่อนร่วมทางอีกกลุ่ม?คู่นี้เขามาเป็นคู่ เขาออกมาจาก หมอชิต หลังเรา 1 ชม?ซึ่งก็มาถึง ที่ อุทยาน ในเวลาใกล้เคียงกับเรา?แต่ว่าเขาเดินมาถึง ที่ลานสนก่อนเรา -*-?อันนี้มันน่าคิดนะว่า เขาเดินไว หรือว่าเราที่ช้าเอง?ก่อนจะลงภูขอซักภาพนะให้ชื่อว่า “Touch Heaven”

phusoidoa5

สนใจสอบถามข้อมูล แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเราได้ที่ facebook fanpage

CLOSE